ข้อควรรู้เรื่องพื้นไม้

     บ้านหรือคอนโดใช้วัสดุปูพื้นเป็นพื้นไม้ เป็นส่วนใหญ่ ด้วยลวดลายทำให้ดูอบอุ่น ดูแล้วน่าพักอาศัยมากขึ้น แต่พื้นไม้จริงนั้นมีราคาค่อนข้างแพง วัสดุทดแทนจึงเป็นอีกทางเลือกในการนำมาใช้แต่งบ้านและคอนโดมากขึ้น พื้นวัสดุทนแทนไม้ที่นิยมนำมาใช้นั้นจะมี 2 แบบ คือ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ และพื้นไม้ลามิเนต

https://i0.wp.com/www.codsana.com/img/66c/c87/66cc87a0d6def0cbad13964d36eee670_0.jpg


พื้นไม้ลามิเนต จะเป็นการนำกระดาษพิมพ์ลายปิดบนไม้ HDF แล้วปิดด้วยแผ่นเมลามีน โดยจุดเด่นนั้นอยู่ที่ความทนทาน ราคาประหยัด และมีลวดลายและขนาดให้เลือกหลากหลาย จึงเป็นที่นิยมในการนำมาใช้สำหรับบ้านและคอนโด

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ จะเป็นการใช้ผิวไม้จริงเคลือบผิวรักษาลายไม้แล้วปิดบนแผ่นไม้ HDF จะทำให้ได้สัมผัสที่หรูหรากว่าเสมือนไม้จริง แต่ราคาประหยัดกว่า มักนิยมใช้สำหรับบ้านและคอนโดระดับไฮเอนด์

ปัจจุบันนั้นพื้นไม้ลามิเนตได้มีการพัฒนาขึ้นมาก ทั้งมีหลายความหนา หลายขนาดหน้าไม้ รวมไปถึงลายของไม้อีกด้วย และยังเพิ่มการทนความร้อนให้ดียิ่งขึ้นอีก โดยพื้นไม้ลามิเนตนั้นจะนิยมใช้ในคอนโดมิเนียมระดับราคาตั้งแต่ 900,000 บาทไปจนถึง 7-8 ล้านบาท แต่สำหรับพื้นไม้เอ็นจิเนียน์นั้นจะนิยมใช้ในคอนโดมิเนียมระดับลักซูรี่เท่า นั้น ราคาตั้งแต่ 8-9 ล้านบาทขึ้นไป

สำหรับวิธีการเลือกใช้พื้นไม้ มีดังนี้

1. เลือกจากแบรนด์ที่ไว้ใจได้ ป้องกันปัญหาวัสดุเกรดต่ำทำให้พื้นบิดเบี้ยว บวมความชื้น ไม่ทนทาน
2. พื้นลามิเนตสามารถทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่นได้
3. พื้นลามิเนตทนต่อความร้อน และรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี
4. ก่อนปูพื้นต้องมั่นใจว่าพื้นห้องแห้งดีแล้ว โดยการทิ้งระยะเวลาคายความชื้นของพื้นเอาไว้ 14-30 วัน
5. ทั้งพื้นไม้ลามิเนตและพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ถึงจะทนต่อความชื้นได้ แต่ก็ไม่สามารถนำมาแช่น้ำได้
6. การปูพื้นต้องเว้นระยะห่างจากผนังไว้ประมาณ 12 เซนติเมตร สำหรับเผื่อระยะการขยายตัวของไม้

เรียบเรียง : ฤทธิ์ษณะ น้อยกมล
แหล่งข้อมูล : Home.co.th

บทความอื่นๆน่าสนใจ

ข้อควรรู้เรื่องพื้นไม้

เสริม “ฮวงจุ้ย” ห้องนอนลูกรัก

The Cubitat กล่องสี่เหลี่ยมเอนกประสงค์

เจาะลึก 8 กลยุทธ์ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ฮ็อตฮิตของโลก

เลือกคอนโดฯ ใกล้รถไฟฟ้า ให้ถูกฮวงจุ้ย

วางแผนระบบพลังงานภายในบ้าน สิ่งที่จำเป็นที่ต้องจัดเตรียมล่วงหน้า

5 Gadget สุดฮิตที่จะเนรมิตรบ้านให้เป็น Smart Home

แก้ปัญหาพื้นที่เล็กๆบนคอนโด

– 9 จุด เตรียมบ้านรับหน้าฝน

5 ข้อห้ามลืม ออกแบบห้องน้ำแคบให้ดูกว้าง ใช้สะดวกสบาย

วิธีการคำนวณค่าเช่าคอนโดเพื่อเพิ่มตอบแทน

6 วิธี ตกแต่งห้องน้ำให้สดใส มีชีวิตชีวา

10 ไอเท็มบนโต๊ะทำงานที่คุณควรจะมี

8 ยอดกลยุทธ์ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

วิธีการตรวจรับห้องคอนโด อย่างง่าย

ทุกวันนี้เราต้องเสียภาษีอะไรกันบ้าง

–  ผ่อนสั้นหรือผ่อนยาว สำหรับซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม อันไหนดีกว่ากัน

สวนกระถาง สวนเล็กๆ ในบ้านให้ความสดใสให้กับชีวิต

10 ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมสำหรับการซื้อบ้านและคอนโด

เสริม “ฮวงจุ้ย” ห้องนอนลูกรัก

     พลังงานและพัฒนาการของเด็กมีความแตกต่างจากของผู้ใหญ่ค่อนข้างมากการจัดห้อง ลูกรักในบ้านหรือคอนโด สิ่งที่ต้องตามหลักฮวงจุ้ย ให้กับห้องนอนของลูก เพื่อสร้างความสดชื่นกระตือรือร้นพร้อมเปิดรับทุกการเรียนรู้อย่างสดใส วันนี้เรามีวิธีการจัดห้องสำหรับลูกน้อยมาฝากครับ


มาเริ่มกันที่สีห้องกันก่อน   สีที่สดใส จะกระตุ้นให้ลูกน้อยมีพลังในการเรียนรู้มากกว่าห้องที่ไร้สีสัน และหากเขาโตพอ การปล่อยให้เขาได้เป็นคนเลือกสีสำหรับตกแต่งห้องเองก็ดีไม่น้อยเพราะเขาจะ รู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและเกิดความภูมิใจที่ได้เป็นผู้ ตัดสินใจด้วยตัวเอง

โดยสีเหลืองเป็นสีแห่งความสนุกสนานความฉลาดรอบรู้สดใสร่าเริง สีส้มเป็นสีแห่งความสร้างสรรค์ความกระตือรือร้น สีเขียวเป็นสีที่ให้ความรู้สึกร่มเย็นทำให้ประสาทตาผ่อนคลายจะช่วยให้หาย เหนื่อย สีฟ้าเป็นสีที่ได้รับการยอมรับว่าจะช่วยให้นอนหลับได้ลึกที่สุด การนำสีมาใช้กับลูกนั้นอาจจะใช้ผ่านสีห้องข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้า

ที่สำคัญไม่ควรมีภาพที่เร้าความรู้สึกตื่นเต้นน่ากลัว ไม่นำของเล่นประเภทดาบกระบี่หรือของมีคมอื่นๆ ไว้ในห้องนอนยังไม่ควรมีคอมพิวเตอร์เครื่องเล่นเกมโทรทัศน์ของตกแต่งที่ดู น่ากลัวไว้ในห้องนอนลูก


หลีกเลี่ยงเตียงนอนสองชั้น เตียงแบบนี้เด็กที่นอนอยู่ด้านล่างจะมีพลังชี่กดทับทำให้พัฒนาการและการเติบ โตของเด็กไม่เต็มศักยภาพ ส่วนเด็กที่นอนอยู่ด้านบนก็อาจจะอึดอัดได้เช่นกันหากฝ้าเพดานห้องนอนนั้นไม่ สูงพอขอแนะนำให้เลือกที่นอนเป็นเตียงแบบทั่วไปจะดีกว่า


เตียงนอน ตำแหน่งของเตียงนอน จะต้องเลี่ยงศรพิฆาตหมายถึงการเลี่ยงมุมแหลมต่างๆ ที่ทิ่มใส่ร่างกายของเด็ก หลีกเลี่ยงประตูห้องน้ำและบนหัวเตียงไม่ควรเป็นหน้าต่างเพื่อป้องกันความ ชื้นจากภายนอกทำให้ลูกเป็นภูมิแพ้ได้


โต๊ะหนังสือ ควรอยู่ในมุมที่มองเห็นวิวได้ไกลด้วยการหันออกไปทางหน้าต่างเป็นการเกิด จินตนาการความคิดของลูกให้เต็มที่ไม่ควรหันหน้าเข้ากำแพงและหันหลังให้ประตู เด็ดขาดเพราะจะทำให้ปิดกั้นจินตนาการของเด็กเสียสมาธิกลายเป็นเด็กสมาธิสั้น อีกด้วย

เรียบเรียง : ฤทธิ์ษณะ น้อยกมล
แหล่งข้อมูล : อาจารย์เมย์ / AjanMay.com , http://www.homedeedeeforyou.com  ,  home.sanook.com

บทความอื่นๆน่าสนใจ

เสริม “ฮวงจุ้ย” ห้องนอนลูกรัก

The Cubitat กล่องสี่เหลี่ยมเอนกประสงค์

เจาะลึก 8 กลยุทธ์ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ฮ็อตฮิตของโลก

เลือกคอนโดฯ ใกล้รถไฟฟ้า ให้ถูกฮวงจุ้ย

วางแผนระบบพลังงานภายในบ้าน สิ่งที่จำเป็นที่ต้องจัดเตรียมล่วงหน้า

5 Gadget สุดฮิตที่จะเนรมิตรบ้านให้เป็น Smart Home

แก้ปัญหาพื้นที่เล็กๆบนคอนโด

– 9 จุด เตรียมบ้านรับหน้าฝน

5 ข้อห้ามลืม ออกแบบห้องน้ำแคบให้ดูกว้าง ใช้สะดวกสบาย

วิธีการคำนวณค่าเช่าคอนโดเพื่อเพิ่มตอบแทน

6 วิธี ตกแต่งห้องน้ำให้สดใส มีชีวิตชีวา

10 ไอเท็มบนโต๊ะทำงานที่คุณควรจะมี

8 ยอดกลยุทธ์ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

วิธีการตรวจรับห้องคอนโด อย่างง่าย

ทุกวันนี้เราต้องเสียภาษีอะไรกันบ้าง

–  ผ่อนสั้นหรือผ่อนยาว สำหรับซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม อันไหนดีกว่ากัน

สวนกระถาง สวนเล็กๆ ในบ้านให้ความสดใสให้กับชีวิต

10 ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมสำหรับการซื้อบ้านและคอนโด


รวม 5 คอนโดมือสอง ทำเลดี ราคาไม่เกิน 2 ล้าน

สวัสดีค่ะ วันนี้ไทยโฮมออนไลน์จะมาแนะนำ 5 คอนโดทำเลดี ราคาไม่เกิน 2 ล้าน ให้ทุกคนได้ตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยแบบราคาสบายๆ เดินทางสะดวก และสามารถหิ้วกระเป๋าพร้อมเข้าอยู่ได้เลยค่ะ

1. ขายคอนโด ซาโตว์อินทาวน์เมเจอร์รัชโยธิน ขนาน 33 ตร.ม. ห้องใหม่ แต่งครบ ราคาขาย 2,000,000 บาท

คอน โด 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ ห้องสวย น่าอยู่ บรรยากาศร่มรื่น ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก มีระเบียงห้องไว้สำหรับรับลม สบายใจรู้สึกปลอดภัยด้วยระบบ รปภ. ตลอด 24 ชม. ระเบียงไม่ติดกับใคร เข้าออกโดยใช้ระบบคีย์การ์ด

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

2. ขายคอนโด บี ยู โชคชัย 4 ซอย 8 ห่างถนนลาดพร้าวเพียง 600 เมตร เข้าออกได้หลายทาง สภาพดีน่าอยู่ ราคาขาย 1,250,000 บาท

ขาย คอนโด Be You Condo บี ยู โชคชัย 4 ซอย 8  โครงการมี 8 ชั้น 2 อาคาร AB อายุทรัพย์ประมาณ 4 ปี อยู่ชั้น 2 ตึก A ขนาด 29 ตารางเมตร ห้องสตูดิโอ พื้นไม้ลามิเนท ห้องนํ้าติดตั้งชุดฝักบัวแบบRAIN เครื่องทํานํ้าอุ่น ห้องครัว ติดตั้งเคาเตอร์ พร้อมตู้แขวนและตู้เก็บของ ห้องนอนมีเครื่องปรับอากาศ ม่านและสลิมไลน์

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

3. ขายคอนโด รีเจ้นท์โฮม 12 ลาดพร้าว 41 พร้อมเฟอร์นิเจอร์ ราคาขาย 1,450,000 บาท

คอน โด รีเจ้นท์โฮม 12 อาคาร A 31.28 ตรม. อยู่ชั้นที่6 ซ. ลาดพร้าว 41 มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว 1 แอร์ ที่จอดรถ1 คัน เดินทางสะดวกออกจากปากซอยลาดพร้าว 41 เพียงประมาณ 600 เมตร

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

4. ขายคอนโด จอนนี่ ทาวน์ ห้วยขวาง ย่านรัชดาภิเษก ขนาด 34 ตรม. ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ราคาขาย 1,650,000 บาท

ขาย คอนโดจอนนี่ ทาวน์ ห้วยขวาง ย่านรัชดาภิเษก ขนาด 34 ตรม. ห้อง Studio อยู่ชั้น 4 แถมเฟอร์ทั้งหมด และเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในห้องสวย พร้อมเข้าอยู่ ที่สำคัญโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ห้วยขวาง สำนักงานเขตห้วยขวาง เพียง 100 เมตร

ดูข้อมลเพิ่มเติม

5. ขายคอนโดLPN รามอินทรา-นวมินทร์ (ติดสถานีรถไฟฟ้าสีชมพู กม.8) ราคาขาย 1,370,000 บาท

ขาย คอนโด LPN กม.8 อาคาร D ชั้น 21 วิวสวยมาก (ทิศตะวันออกเฉียงใต้) พร้อมผู้เช่า 6,000 บาท/เดือน และเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า 25 รายการ คุ้มทั้งอยู่เองหรือลงทุน 

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

บทความอื่นๆน่าสนใจ

รวม 5 คอนโดมือสอง ทำเลดี ราคาไม่เกิน 2 ล้าน

เคล็ดลับง่ายๆ กำจัดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้า
เก๋สุดๆ กระเบื้องสามมิติ เทรนด์ใหม่แต่งบ้านหรู
เจ๋งสุดๆ อัพไซส์ห้องรับแขกและห้องกินข้าว แบบไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม
ไอเดียการแต่งคอนโด สำหรับครอบครัว
เทคนิคการเลือกโซฟา ในพื้นที่จำกัด

The Cubitat กล่องสี่เหลี่ยมเอนกประสงค์

     แนวคิดในการตกแต่งคอนโดฯ นับวันจะมีไอเดียใหม่เกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะสังคมเราได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นสังคมเมืองมากยิ่งขึ้น และคอนโดฯ ปัจจุบันมักจะสร้างในพื้นที่ที่มีการคมนาคมสะดวกรวดเร็ว ทำให้ชีวิตของคนรุ่นใหม่เข้ามาอาศัยในคอนโดฯ มากยิ่งขึ้น สิ่งนี้ทำให้นักออกแบบได้รังสรรค์ ไอเดียในการสร้างคอนโดฯ หรือการตกแต่งคอนโดฯ ด้วยไอเดียบรรเจิดกันมากขึ้น วันนี้  CMC Group ขอเสนอไอเดีย The Cubitat ที่รวมทุกสิ่งอย่าง

https://i0.wp.com/www.homenayoo.com/wp-content/uploads/2015/02/The-Cubitat-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99.jpg


นี่คือกล่องสี่เหลี่ยม ที่รวมเอาทุกการใช้ชีวิต ไว้ในกล่องเดียวจริง ๆ ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น รวมไปถึงครัวด้วย เป็นไอเดียการออกแบบเจ๋งๆ จากดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน Luca Nichetto  เรามาดูกันต่อดีกว่าว่า แต่ละด้านของคิวบิคลูกนี้จะมีอะไรอยู่บ้างเข้าไปชมเลยครับ

https://i0.wp.com/www.homenayoo.com/wp-content/uploads/2015/02/1397.jpg


สำหรับ ต้นแบบของคิวบิคชิ้นนี้ได้ชื่อว่า The Cubitat โดยในแต่ละด้านของเจ้าคิวบิคนี้จะประกอบไปด้วยเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ที่ จำเป็นสำหรับการอยู่อาศัย  ไม่ว่าจะเป็นด้านแรกที่เป็นส่วนชั้นสำหรับวางทีวีที่มีจุดเชื่อมต่อ multimedia มากมาย ด้านใต้เป็นส่วนของเตียงนอนที่สามารถเลื่อนออกมาเป็นเตียงหกฟุตได้ มีชั้นวางของเหนือเตียงและมีตู้เก็บของด้านข้างด้วย

https://i0.wp.com/www.homenayoo.com/wp-content/uploads/2015/02/2262.jpg


อีกด้านถัดมานั้นจะเป็นส่วนของเคาน์เตอร์ครัว  มีเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร เตา เตาอบ ตู้เย็น ซิงค์ล้างจาน เครื่องล้างจาน เครื่องดูดควัน เตรียมไว้เรียบร้อย แถมยังมีตู้สำหรับเก็บอาหารและจานชามภาชนะต่างๆ ได้  เมื่อหมุนมาอีกด้านจะเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เรียกได้ว่าเก็บเสื้อผ้าได้ทั้งครอบครัวกันเลย  ส่วนด้านสุดท้ายนั้นจะพบกับชั้นสำหรับจัดวางเครื่องซักผ้าและมีประตูเปิด เข้าสู่ภายในคิวบิกได้  ภายในนี้เป็นส่วนของห้องน้ำและห้องอาบน้ำนั่นเอง  มีทั้งส่วนของโถชักโครก อ่างล้างหน้า และห้องอาบน้ำฝักบัว   สำหรับใครที่สนใจไอเดียแบบนี้คงต้องรอสักหน่อยนะคะ เพราะคิวบิกดังกล่าวยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาครับ

https://i0.wp.com/www.homenayoo.com/wp-content/uploads/2015/02/3232.jpg

เรียบเรียง : ฤทธิ์ษณะ น้อยกมล
แหล่งข้อมูล : http://www.homenayoo.com/humble-homes

บทความอื่นๆน่าสนใจ

The Cubitat กล่องสี่เหลี่ยมเอนกประสงค์

เจาะลึก 8 กลยุทธ์ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ฮ็อตฮิตของโลก

เลือกคอนโดฯ ใกล้รถไฟฟ้า ให้ถูกฮวงจุ้ย

วางแผนระบบพลังงานภายในบ้าน สิ่งที่จำเป็นที่ต้องจัดเตรียมล่วงหน้า

5 Gadget สุดฮิตที่จะเนรมิตรบ้านให้เป็น Smart Home

แก้ปัญหาพื้นที่เล็กๆบนคอนโด

– 9 จุด เตรียมบ้านรับหน้าฝน

5 ข้อห้ามลืม ออกแบบห้องน้ำแคบให้ดูกว้าง ใช้สะดวกสบาย

วิธีการคำนวณค่าเช่าคอนโดเพื่อเพิ่มตอบแทน

6 วิธี ตกแต่งห้องน้ำให้สดใส มีชีวิตชีวา

10 ไอเท็มบนโต๊ะทำงานที่คุณควรจะมี

8 ยอดกลยุทธ์ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

วิธีการตรวจรับห้องคอนโด อย่างง่าย

ทุกวันนี้เราต้องเสียภาษีอะไรกันบ้าง

–  ผ่อนสั้นหรือผ่อนยาว สำหรับซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม อันไหนดีกว่ากัน

สวนกระถาง สวนเล็กๆ ในบ้านให้ความสดใสให้กับชีวิต

10 ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมสำหรับการซื้อบ้านและคอนโด

เจาะลึก 8 กลยุทธ์ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ฮ็อตฮิตของโลก

         คนส่วนใหญ่เมื่อคิดจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กันมักเข้าใจว่ากลยุทธ์การลงทุน จะมีเพียงแค่ซื้อมาขายไป หรือไม่เช่นนั้นก็ซื้อเพื่อนำมาให้เช่าเพียงเท่านั้น

https://thaihomeonline.files.wordpress.com/2015/06/ab57b-58-06-19.jpg

          แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลยุทธ์การลงทุนที่นักลงทุนทั่วโลกใช้กันอยู่ กลับมีอยู่มากมาย หลากหลายกว่าที่รับรู้ กันมาก เอาเฉพาะในแบบที่สามารถประยุกต์ใช้ในบ้านเราได้ ก็มีอยู่ถึง 8 กลยุทธ์ด้วยกัน กลยุทธ์แต่ละแบบ มีแนวคิด วิธีการเป็นเช่นไร และเหมาะนำมาใช้เมื่อไหร่ ตอนไหน ในโอกาสนี้ ขอนำมาเจาะลึก ให้ผู้อ่านได้เห็นอย่างทะลุปุโปร่ง ดังนี้

1. ซื้อและถือไว้ (Buy and Hold) เป็นกลยุทธ์ลงทุนเก่าแก่ที่นิยมทำกันมานานแล้ว เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการปรับเพิ่มค่าของอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการซื้อที่ดินเปล่าและถือเก็บรอเวลา กฎกำปั้นทุบดินของบรรดาเซียนอสังหาฯเรียกกันว่า “กฎ 77” นั่นคือให้ซื้ออย่างน้อย 7 แปลง และถือครอง 7 ปีขึ้นไป แต่ก็มีกูรูบางคนแนะนำให้ซื้อถึง 10 แปลงก็มี

หลักคิดของกลยุทธ์แบบนี้ คือไม่เน้นขายอสังหาริมทรัพย์ทำกำไร เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษีกำไรจากการขาย (Capital Gain Tax) แต่จะเน้นเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการเพิ่มค่าความเป็นเจ้าของ (Equity Build-up) ไว้ใช้ในยามแก่เฒ่า หรือในช่วงที่ต้องออกจากงาน หรือบางคนก็ตั้งใจที่จะเก็บตกทอดเป็นมรดกไว้ให้ลูกหลาน

ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของกลยุทธ์ซื้อและถือไว้ อยู่ตรงที่ธนาคารมักไม่ปล่อยกู้ให้ เวลาลงทุนจึงต้องใช้เงินสดของตัวเองเป็นหลัก ทั้งนี้กุญแจความสำเร็จของกลยุทธ์แบบนี้ ก็คือต้องพยายามทำกำไรให้ได้ตั้งแต่ตอนซื้อเลย โดยหาทางซื้อให้ได้ในราคาต่ำกว่าตลาดตั้งแต่เริ่มแรก ส่วนการเพิ่มค่าที่จะเกิดขึ้นตามมา ให้ถือเป็นส่วนโบนัสที่พึงได้รับจากการถือครอง

2. ซื้อเพื่อนำมาปล่อยเช่า(Buy to Rent) ถือเป็นรูปแบบการลงทุนที่คนนิยมทำกันมากสุดในปัจจุบัน ทั้งนี้ขณะที่กลยุทธ์ซื้อและถือไว้ เหมาะใช้กับอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า  แต่กลยุทธ์แบบซื้อมาปล่อยเช่านี้ จะเหมาะที่นำมาใช้กับบ้านและคอนโดฯ เป็นสำคัญ

สาเหตุสำคัญ ก็เพราะที่อยู่อาศัยคือปัจจัยสี่ที่จำเป็นหรับทุกคน การปล่อยเช่าจะทำได้ง่าย และได้ค่าเช่าสูง จึงสามารถสร้างกระแสรายได้(Cash Flows) ในรูปผลตอบแทนค่าเช่าแต่ละปี (Rental Yield) ได้อย่างน่าพอใจเลยทีเดียว

3. ซื้อมาขายไป (Trading) หรือภาษาลงทุนนิยมเรียกกันว่า “ฟลิป(Flip)” เป็นกลยุทธ์ที่เหมาะที่จะนำมาใช้ในช่วงตลาดอสังหาริมทรัพย์ขาขึ้น (Rising Real Estate Market) เป็นอย่างยิ่ง วิธีการก็คือเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าแท้จริง จากนั้นก็ให้รีบขายต่อให้ผู้อื่นเพื่อทำกำไรในที่สุด

กลยุทธ์แบบนี้ มักนิยมทำกันมาก กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดขายใหม่ ที่ยังไม่ได้สร้าง โดยเฉพาะโครงการประเภทคอนโดมิเนียม เนื่องจากใช้เงินลงทุนไม่มาก แถมตอนขายทำกำไร ยังไม่ต้องเสียค่าโอนและภาษีอีกด้วย

แต่หากนำไปประยุกต์ใช้กับอสังหาฯ ที่สร้างเสร็จแล้วเมื่อไหร่ จะมีข้อจำกัดเกิดขึ้น นั่นคือจะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องภาษีและค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในการถือครองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งจะส่งผลให้กำไรที่พึงได้ ถูกลิดรอนลง

เคล็ดลับอย่างหนึ่ง ที่จะช่วยให้ขายง่ายและได้ราคาดีขึ้น นั่นก็คือก่อนขายให้นำอสังหาฯ มาซ่อม ปรับปรุง ปะหน้าทาแป้งเล็กๆ น้อยๆ ให้ดูดีเสียก่อน เช่นตัดหญ้า ทำความสะอาดพื้น จัดสวน หรือทาสี ฯลฯ โดยเน้นทำในสิ่งเล็กๆ น้อยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก แต่สามารถอัพตัวอสังหาริมทรัพย์ให้ดูดีมากๆ ได้

แม้ปัจจุบันกลยุทธ์ฟลิป จะทำกันน้อยกว่ากลยุทธ์ซื้อมาปล่อยเช่าก็ตาม แต่ก็มีแนวโน้มทวีบทบาทน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ล่าสุดจากการสำรวจกลยุทธ์ลงทุนบ้านในสหรัฐฯ ในปี 2557 พบว่ากลยุทธ์ฟลิป ขยายตัวในอัตราสูงมาก

4. ชุบชีวิตอสังหาริมทรัพย์ขึ้นใหม่อีกครั้ง (Rejuvenations) กลยุทธ์แบบนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาประยุกต์ใช้กับอสังหาริมทรัพย์เก่าที่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ทำเลดีๆ โดยจะมีข้อจำกัดคล้ายกับการซื้อมาขายไปบ้านเก่า คือจะมีภาษี ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในการถือครองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

กุญแจความสำเร็จของกลยุทธ์แบบนี้ ปกติจะขึ้นกับการชุบชีวิตบ้านให้กลับมาดูดีและสดใสใหม่ ซึ่งต้องทำให้ได้ในระยะเวลาสั้นสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ปกติในสหรัฐฯ จะใช้เวลาดำเนินการกันประมาณ 6 สัปดาห์

โดยทั่วไป สิ่งที่ต้องทำกับบ้านที่ซื้อมา จะมากว่าการซ่อมแซม หรือปะหน้าทาแป้ง แต่จะครอบคลุมไปถึงการปฏิสังขรณ์ (Renovate) ด้วย ทั้งนี้ส่วนของบ้านที่นิยมเข้าไปยกเครื่องใหม่กัน ก็คือส่วนครัวและห้องน้ำ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญสุดที่คนใช้พิจารณาซื้อบ้านกัน โดยส่วนใหญ่จะเน้นเปลี่ยนเครื่องใช้ในครัว และสุขภัณฑ์ใหม่ กันเป็นหลัก แต่จะระวังไม่ก้าวล้ำไปเปลี่ยนแปลงในส่วนของโครงสร้าง หรือส่วนอื่นๆ เพราะจะกระทบถึงต้นทุนและกำไรได้

5. รีไฟแนนซ์ (Refinance) คนส่วนใหญ่มักคิดกันว่าเป็นแค่เพียงกลยุทธ์ระดมทุนเท่านั้น แต่ในแวดวงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จัดเป็นกลยุทธ์การลงทุนรูปแบบหนึ่ง เพราะทำแล้วสามารถเพิ่มกระแสเงินสดไหลเข้า (Cash Inflows) ได้ ทั้งในรูปของรายจ่ายดอกเบี้ยที่น้อยลง และยังสามารถระดมเงินสดเข้ามาได้ด้วย

จริงๆ แล้ว กลยุทธ์รีไฟแนนซ์ สามารถทำได้ในหลายลักษณะ ขึ้นกับวัตถุประสงค์ในการใช้เป็นสำคัญ สำหรับรูปแบบพื้นฐานที่นิยมทำกันมากสุด ก็คือการกู้หนี้ใหม่ดอกต่ำ เพื่อไปโป๊ะใช้หนี้เดิมที่มีดอกสูงกว่า ซึ่งจะส่งผลให้ประหยัดรายจ่ายดอกเบี้ยลงได้ในทันที

รีไฟแนนซ์ ยังสามารถประยุกต์ใช้เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในอนาคตได้ด้วย ทั้งนี้หากพบว่าอัตราดอกเบี้ยในอนาคตกำลังมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น สิ่งที่ควรทำก็คือต้องรีบรีไฟแนนซ์เงินกู้ดอกเบี้ยลอยตัว(Floating Rate) ให้ไปเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่(Fixed Rate) แทน ซึ่งจะช่วยปกป้องผู้กู้จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้เป็นอย่างดี

ในทางกลับกันหากพบว่าทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต กำลังมีแนวโน้มลดต่ำลง สิ่งที่พึงกระทำก็คือต้องรีไฟแนนซ์เงินกู้จากดอกเบี้ยคงที่ มาเป็นแบบดอกเบี้ยลอยตัวแทน ซึ่งจะส่งผลให้ผู้กู้ได้รับประโยชน์ หากดอกเบี้ยเกิดลดลงขึ้นมา

ในต่างประเทศ รีไฟแนนซ์ ยังสามารรถใช้เป็นกลยุทธ์ในการระดมทุนเป็นเงินสดได้ด้วย โดยเฉพาะเมื่อกู้ยืมผ่านมาหลายๆ ปีแล้ว จะส่งผลให้สามารถกู้ยืมสินเชื่อที่มีวงเงินสินเชื่อสูงขึ้นได้

6. ลงทุนกับสัญญาออปชั่น(Option) แนวคิดการลงทุนของกลยุทธ์แบบนี้ ก็คือวางเงินเข้าไปซื้อ “ลีส ออปชั่น(Lease Option)” หรือ “สัญญาเช่าบ้านที่ผูกสิทธิในการซื้อบ้านไว้” ซึ่งจะเป็นผลให้ได้สิทธิในการครอบครอง พร้อมสิทธิในการซื้อบ้านตามราคาและระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งเงินค่าออปชั่นนี้ จะถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าซื้อบ้านในอนาคตด้วย

เมื่อเข้าถือสิทธิออปชั่นได้แล้ว ก่อนที่สัญญาจะครบกำหนดที่จะต้องไปโอนซื้อกันจริงๆ ผู้ลงทุนก็จะนำไปขายต่อทำกำไร ให้กับผู้ซื้อรายอื่นต่อไป

7. สนับสนุนการเงินระยะเริ่มต้นให้ผู้ซื้อแทนธนาคาร(Wraps) แนวคิดของกลยุทธ์ก็คือเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ให้กับผู้ซื้อที่มีปัญหาใน เรื่องเครดิต หรือขาดคุณสมบัติ ที่ไม่สามารถกู้ซื้อบ้านได้ โดยผู้ขายเข้ามาทำหน้าที่แทนแบงค์ในระยะเริ่มแรก ในลักษณะให้เช่าซื้อ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารเล็กน้อย หลังจากผ่อนไประยะหนึ่งแล้ว อาจเป็น 3 ปี หรือ 5 ปี ก็ค่อยให้ผู้ซื้อทำเรื่องขอกู้ซื้อจากธนาคารโดยตรง

กลยุทธ์แบบนี้ไม่ค่อยเห็นทำกันในบ้านเรา ผู้สันทัดกรณีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเพราะกลยุทธ์แบบนี้ ทำแล้วจะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เนื่องจากในเมืองไทยเรา ระยะเวลา 3 ปี และ 5 ปี อาจไม่การันตีใดๆ ได้เลยว่าผู้ซื้อบ้านจะสามารถกู้ยืมธนาคารได้ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้กู้ด้วย

8. ยึดทรัพย์สินขายทอดตลาด (Foreclosures) ระบบนี้ นิยมทำกันมากในสหรัฐฯ นั่นคือเจ้าของบ้านที่มีปัญหาและไม่สามารถผ่อนชำระคืนได้อีกต่อไป ธนาคารจะนำมาขายทอดตลาดเพื่อหักกลบลบหนี้ ซึ่งการขายทอดตลาดนี้ได้รับความนิยมมากในหมู่นักล่ากำไร(Bargain Hunters) เพราะมีโอกาสพบเจอทรัพย์สินดีๆ ในราคาต่ำกว่าตลาดได้

ในบางประเทศ เจ้าของอสังหาฯ ที่มีปัญหา อาจเป็นผู้ดำเนินการขายทอดตลาดเอง โดยโฆษณาตรงไปยังผู้ซื้อหรือนักลงทุนในหน้าหนังสือพิมพ์ ในลักษณะ “ต้องรีบขาย” หรือ “จำเป็นต้องขาย” ผ่านวิธีประมูล เพื่อให้ขายได้ราคาดีที่สุด

ในเมืองไทยเรา บ้านที่ขายทอดตลาด ซึ่งดำเนินการผ่านกรมบังคับคดี มักไม่ค่อยพบเจอบ้านดี ราคาถูกสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ซื้อมาแล้วมักมีปัญหา เช่นบ้านทรุดโทรมมากกว่าที่ควรจะเป็น หรือเจ้าของเดิมไม่ยอมย้ายออก ส่วนบ้านดีๆ ทำเลน่าสนใจ มักถูกชิงซื้อไปก่อนที่จะขายทอดตลาดแล้ว

กลยุทธ์แบบนี้ในบ้านเรา ที่ทำกันแล้ว ดูจะได้ผลดีมากที่สุด ก็คือการขายอสังหาริมทรัพย์ที่หลุดขายฝาก ให้กับผู้สนใจในราคาต่ำกว่าตลาด เพื่อทำกำไร

เรียบเรียง : ฤทธิ์ษณะ น้อยกมล
แหล่ข้อมูล : http://www.home.co.th

บทความอื่นๆน่าสนใจ

เจาะลึก 8 กลยุทธ์ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ฮ็อตฮิตของโลก

เลือกคอนโดฯ ใกล้รถไฟฟ้า ให้ถูกฮวงจุ้ย

วางแผนระบบพลังงานภายในบ้าน สิ่งที่จำเป็นที่ต้องจัดเตรียมล่วงหน้า

5 Gadget สุดฮิตที่จะเนรมิตรบ้านให้เป็น Smart Home

แก้ปัญหาพื้นที่เล็กๆบนคอนโด

– 9 จุด เตรียมบ้านรับหน้าฝน

5 ข้อห้ามลืม ออกแบบห้องน้ำแคบให้ดูกว้าง ใช้สะดวกสบาย

วิธีการคำนวณค่าเช่าคอนโดเพื่อเพิ่มตอบแทน

6 วิธี ตกแต่งห้องน้ำให้สดใส มีชีวิตชีวา

10 ไอเท็มบนโต๊ะทำงานที่คุณควรจะมี

8 ยอดกลยุทธ์ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

วิธีการตรวจรับห้องคอนโด อย่างง่าย

ทุกวันนี้เราต้องเสียภาษีอะไรกันบ้าง

–  ผ่อนสั้นหรือผ่อนยาว สำหรับซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม อันไหนดีกว่ากัน

สวนกระถาง สวนเล็กๆ ในบ้านให้ความสดใสให้กับชีวิต

10 ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมสำหรับการซื้อบ้านและคอนโด

เลือกคอนโดฯ ใกล้รถไฟฟ้า ให้ถูกฮวงจุ้ย

ปัจจุบัน คอนโดมิเนียม ได้สร้างใกล้ๆ กับแนวรถไฟฟ้าเพื่อความสะดวกในการเดินทาง แต่การเลือกคอนโดฯ ที่มีฮวงจุ้ยที่ดีจะเป็นอย่างไร วันนี้มีคำตอบครับ

https://i0.wp.com/www.home.co.th/images/img_v/BuyHome/7/2010_11_25_17_10_14.jpg


ทำเล ที่ตั้ง ควรเลือกโครงการที่มีแนวรางของรถโอบล้อมไว้ด้านใน เสมือนกับบ้านซึ่งอยู่โค้งด้านในนั่นเอง  ยิ่งถ้ามีวงเวียนหรือถนนหลายๆสายมาบรรจบยิ่งดี  สรุปว่าเลือกที่ตั้งคอนโดฯ ภายในโค้งโอบจะยิ่งเสริมสร้างความรุ่งเรืองให้เจ้าของห้อง

โครงการ/อาคาร ภายในโครงการจะต้องออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวด้านล่างในลักษณะโอบโดยรอบให้ บริเวณตรงกลางเป็นลานโล่งรับพลัง มีต้นไม้ให้ความร่มรื่นรองรับอย่างเพียงพอ หากจะมีน้ำหรือน้ำพุกระตุ้นพลังงานด้านล่างบริเวณนั้นได้ด้วยยิ่งดี หากโครงการมีหลายอาคาร ขอให้มองว่าหากสร้างขึ้นแล้วจะไม่บังกระแสลมหรือมุมมองซึ่งกันและกัน

ทาง เข้าออก ต้องสามารถรับกระแสพลังจากถนนได้ หมายความว่า ทางเข้าออกจากโครงการสู่ถนนใหญ่ ไม่ควรมองเห็นเสาตอม่อรถไฟฟ้าโดยตรง  เพราะจะทำให้กระแสพลังจากถนนเข้าโครงการได้ยากและหน้าโครงการจะมืด  ทางเข้าไม่ควรแคบเกินไป  ให้รถสามารถเลี้ยวเข้าออกได้ง่าย ส่วนทางเข้าออกที่ดีควรอยู่ด้านหน้าก่อนถึงสถานีเล็กน้อยโดยพิจารณาจากรถที่ มาทางด้านขวาเป็นหลัก ทางเข้าในลักษณะดังกล่าวจะสามารถดักกระแสพลังจากถนนได้ สำหรับรถไฟฟ้าใต้ดินก็มีวิธีพิจารณาทางเข้าออกกับทิศทางรถแบบเดียวกัน

ชั้นของคอนโด เลขที่ของชั้นไม่ต้องซีเรียสมาก แต่ชั้นที่ดีควรจะสูงกว่ารางของรถไฟฟ้า  เพื่อมิให้กระแสพลังถูกบดบังและสามารถได้วิวที่มองเห็นได้ไกลๆ ความคิดความอ่านของผู้อยู่จะได้มีวิสัยทัศน์ นอกจากนี้ชั้นที่สูงสามารถรับกระแสลมได้ดี เสียงรบกวนน้อยและฝุ่นน้อย ถ้าหากท่านใดสนใจชั้นล่างก็ต้องแน่ใจว่าโครงการนั้นมีที่โล่งและพื้นที่สี เขียวพอเพียง

ห้องชุด  คอนโดฯ หนึ่งตึกมีหลายห้อง และแต่ละห้องก็มีความพิเศษหรือส่งผลดีให้กับผู้อาศัยไม่เหมือนกันเพราะต่าง ทิศและต่างองศา ควรพิจารณาระเบียงเป็นจุดรับพลัง  ถ้ากว้างรับลมได้ดี มองโล่งจะดีมาก  มีโอกาสร่ำรวย ภายในห้องต้องไม่มืดจนเกินไป  เพดานสูง  หลอดไฟไม่ควรตรงหัวนอน  ซอกหลืบภายในห้องต้องให้น้อยที่สุด  ซินแสที่ชำนาญจะทำการวิเคราะห์ดวงชะตาของเจ้าของห้องว่าชอบธาตุไหนเพื่อนำมา กำหนดหัวนอนและปรับแต่งสภาพแวดล้อมเพื่อเสริมดวงชะตา

รูปทรงของอาคาร รูปทรงคอนโดฯ ส่วนใหญ่จะเหมาะสมกับคนธาตุไม้ เพราะคอนโดฯ มักสร้างสูงๆ อันเป็นลักษณะของธาตุไม้ที่ส่งเสริมเรื่องปัญญา การศึกษา อย่างไรก็ตาม ในอาคารหนึ่งๆอาจจะมีส่วนประกอบได้หลายธาตุ เพราะแต่ละอาคารก็มีหลายลักษณะรวมกันอยู่

เรียบเรียง    : ฤทธิ์ษณะ น้อยกมล
แหล่งข้อมูล : Home buyers’ Guide

บทความอื่นๆน่าสนใจ

เลือกคอนโดฯ ใกล้รถไฟฟ้า ให้ถูกฮวงจุ้ย

วางแผนระบบพลังงานภายในบ้าน สิ่งที่จำเป็นที่ต้องจัดเตรียมล่วงหน้า

5 Gadget สุดฮิตที่จะเนรมิตรบ้านให้เป็น Smart Home

แก้ปัญหาพื้นที่เล็กๆบนคอนโด

– 9 จุด เตรียมบ้านรับหน้าฝน

5 ข้อห้ามลืม ออกแบบห้องน้ำแคบให้ดูกว้าง ใช้สะดวกสบาย

วิธีการคำนวณค่าเช่าคอนโดเพื่อเพิ่มตอบแทน

6 วิธี ตกแต่งห้องน้ำให้สดใส มีชีวิตชีวา

10 ไอเท็มบนโต๊ะทำงานที่คุณควรจะมี

8 ยอดกลยุทธ์ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

วิธีการตรวจรับห้องคอนโด อย่างง่าย

ทุกวันนี้เราต้องเสียภาษีอะไรกันบ้าง

–  ผ่อนสั้นหรือผ่อนยาว สำหรับซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม อันไหนดีกว่ากัน

สวนกระถาง สวนเล็กๆ ในบ้านให้ความสดใสให้กับชีวิต

10 ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมสำหรับการซื้อบ้านและคอนโด


เคล็ดลับง่ายๆ กำจัดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้า

หลายคนคงจะไม่เคยทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าตั้งแต่ ซื้อมาเลยใช่ไหมคะ เมื่อความชื้นรอบๆ ตู้เสื้อผ้าที่มาสะสมจนเกิดเป็นเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียหรือนำเสื้อผ้าที่ ยังไม่แห้งสนิทใส่ตู้ จนเกิดกลิ่นเหม็นอับสร้างความรบกวนให้กับเพื่อนๆ ไม่ใช่น้อย แอดมินมีวิธีขจัดกลิ่นเหล่านั้นมากฝากค่ะ

https://i0.wp.com/www.thaihomeonline.com/files/file-manager/source/user-2/home%20decor/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%9A.jpg

วิธีที่ 1 : วางแผ่นขนมปังขาวลงไปในชามแล้วเทน้ำส้มสายชูลงไปแล้วนำมาวางไว้ในตู้เสื้อผ้า ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หากยังมีกลิ่นอยู่ควรทำซ้ำอีกครั้ง

วิธีที่ 2 : นำเสื้อผ้าออกจากตู้ให้หมด โดยนำผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดทุกซอกทุกมุมของตู้และเปิดทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพื่อระบายอากาศให้ถ่ายเทได้สะดวกจะได้ไม่อับชื้น

วิธีที่ 3 : นำสบู่หอมมาวางตามมุมต่างๆ ของตู้เสื้อผ้า

วิธีที่ 4 : ผ้าที่มีกลิ่นอับเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าได้ เวลานำผ้าไปซักให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง ลงไปกับน้ำยาซักผ้า แต่ถ้าเป็นผ้าขาวให้ผสมน้ำยาฟอกขาวลงไปแทนน้ำส้มสายชู สำหรับผ้าหนา เช่น ผ้าเช็ดตัว หรือผ้ายีนส์ ต้องนำผ้าเหล่านี้ไปแช่น้ำที่ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงต่อน้ำ 1 แกลลอน หรือน้ำยาฟอกขาว สัก 2-3 ชั่วโมงก่อนนำไปซักตามปกติแล้วใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นหอมๆ นำผ้าไปตากในที่มีแดดหรืออย่างน้อยๆ ก็ตากในที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อที่จะได้ไม่มีกลิ่นอับชื้นอีก

cr. แม่บ้าน

บทความอื่นๆน่าสนใจ

เคล็ดลับง่ายๆ กำจัดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้า
เก๋สุดๆ กระเบื้องสามมิติ เทรนด์ใหม่แต่งบ้านหรู
เจ๋งสุดๆ อัพไซส์ห้องรับแขกและห้องกินข้าว แบบไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม
ไอเดียการแต่งคอนโด สำหรับครอบครัว
เทคนิคการเลือกโซฟา ในพื้นที่จำกัด

วางแผนระบบพลังงานภายในบ้าน สิ่งที่จำเป็นที่ต้องจัดเตรียมล่วงหน้า

     พลังงานในบ้านหรือคอนโด หลายคนคงมองเรื่องแสงสว่างและปลั๊กไฟฟ้าเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงเรื่องพลังงานในบ้านหรือคอนโดยังมีอุปกรณ์อื่นที่ต้องการ พลังงานไฟฟ้าเพื่อการทำงานอีกหลายอย่าง เช่น เครื่องปรับอากาศ ปั๊มน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแต่ต้องมีการวางแผนและกำหนดไว้ล่วงหน้า

https://thaihomeonline.files.wordpress.com/2015/06/62f46-58-06-15.jpg


เจ้าของบ้านหรือคอนโด วางแผนไว้ทั้งหมดว่าต้องการอุปกรณ์อะไรบ้างรวมถึงตำแหน่งที่ติดตั้งของ อุปกรณ์เหล่านั้น รวมถึงการจัดแบ่งวงจรไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้านหรือคอนโด โดยแยกออกเป็นชั้นหรือห้องต่างๆ รวมถึงการวางแผนล่วงหน้าสำหรับเครืองใช้ไฟฟ้าที่จะมีเพิ่มขึ้นในอนาคต อันจะเป็นการป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรนั่นเอง

วางแผนการใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์ต่างๆไว้เพิ่มเติม เนื่องจากอุปกรณ์บางชนิดต้องต่อสายไฟขนาดใหญ่กว่าสายไฟปกติจากตู้ควบคุมโดย ตรงมายังจุดติดตั้ง ได้แก่ เครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องปรับอากาศ และต้องมีสวิตช์ควบคุม (Breaker) ที่ตู้ควบคุมเนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าสูงสำหรับการทำงาน ถ้าไม่ได้กำหนดล่วงหน้าการจัดทำเพิ่มเติมาภายหลังอาจต้องแก้ไขอุปกรณ์ในตู้ ควบคุม และยังอาจต้องเดินลอยเนื่องจากไม่สามารถฝังในผนังหรือเดินเหนือฝ้าเพดานที่ ทำเสร็จแล้วได้ ทำให้บ้านไม่สวยงาม ตัวอย่างเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นชัดเจนที่สุดคือกรณีของอาคารพาณิชย์ ซึ่งการเตรียมสายไฟจะเป็นการเตรียมไว้ขั้นต่ำสุด มีเพียงเรื่องแสงสว่างและปลั๊กไฟสำหรับอุปกรณ์พื้นฐาน เมื่อผู้ซื้ออาคารจะใช้งานนอกเหนือจากที่มีอยู่จะต้องทำการเปลี่ยนสายทั้ง หมดและอาจจะต้องแจ้งเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าด้วย

เรื่องเกี่ยวกับการใช้พลังงานไฟฟ้าอีกเรื่องหนึ่งคือการให้สายไฟฟ้าเข้าจาก เสาไฟฟ้าหน้าบ้านและพุ่งเข้าใต้ชายคาบ้าน ซึ่งเป็นวิธีปกติที่มักดำเนินการกัน แต่หากท่านได้วางแผนเพิ่มเติ่มก็อาจจะหาทางให้สายไฟฟ้าเข้าทางใต้ดินเพื่อ ให้บ้านดูสวยงาม แต่ถ้าจะทำแบบนี้จะต้องเตรียมการให้ถูกต้อง ทั้งเรื่องของชนิดสายไฟสำหรับการฝังใต้ดินจะต้องไม่มีการต่อที่ใต้ดิน และยังต้องหาตำแหน่งการขึ้นของสายไฟสำหรับการฝังใต้ดินจะต้องไม่มีการต่อที่ ใต้ดินให้ได้ มิฉะนั้นก็จะทำไม่ได้ เป็นเรื่องที่ลำบากขึ้นอีกเล็กน้อยแต่ก็ให้ความเรียบร้อยสวยงามแก่บ้านเพิ่ม ขึ้น

เรียบเรียง ฤทธิ์ษณะ น้อยกมล
แหล่งข้อมูล นิตยสาร HOME BUYERS’GUIDE

บทความอื่นๆน่าสนใจ

วางแผนระบบพลังงานภายในบ้าน สิ่งที่จำเป็นที่ต้องจัดเตรียมล่วงหน้า

5 Gadget สุดฮิตที่จะเนรมิตรบ้านให้เป็น Smart Home

แก้ปัญหาพื้นที่เล็กๆบนคอนโด

– 9 จุด เตรียมบ้านรับหน้าฝน

5 ข้อห้ามลืม ออกแบบห้องน้ำแคบให้ดูกว้าง ใช้สะดวกสบาย

วิธีการคำนวณค่าเช่าคอนโดเพื่อเพิ่มตอบแทน

6 วิธี ตกแต่งห้องน้ำให้สดใส มีชีวิตชีวา

10 ไอเท็มบนโต๊ะทำงานที่คุณควรจะมี

8 ยอดกลยุทธ์ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

วิธีการตรวจรับห้องคอนโด อย่างง่าย

ทุกวันนี้เราต้องเสียภาษีอะไรกันบ้าง

–  ผ่อนสั้นหรือผ่อนยาว สำหรับซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม อันไหนดีกว่ากัน

สวนกระถาง สวนเล็กๆ ในบ้านให้ความสดใสให้กับชีวิต

10 ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมสำหรับการซื้อบ้านและคอนโด

ไอเดียแต่งสวนสวยด้วยหญ้าเทียม

การเลือกใช้สีตามหลักภูมิปัญญาจีน

การตกแต่งสไตล์ minimalist

ตกแต่งบ้านหรือคอนโดหลังแรก

ตกแต่งคอนโดด้วยสวนแคนตัส

7 เคล็ดลับขยายพื้นที่บ้าน ด้วยการตกแต่ง

5 Gadget สุดฮิตที่จะเนรมิตรบ้านให้เป็น Smart Home

    ในยุคที่ “ความสะดวกสบาย” อยู่คู่กับ “ความทันสมัย” อะไรๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส เช่นเดียวกับบรรดาอุปกรณ์แต่งบ้านที่พาเหรดกันออกมาแข่งขันกันในเรื่องของ ฟังก์ชั่นและดีไซน์ที่นำสมัย ล่าสุด เกิดเป็นเทรนด์ในหมู่ดีเวลลอปเปอร์อสังหาริมทรัพย์และนักออกแบบภายในทั้งมือ อาชีพและสมัครเล่น ในการเฟ้นหา Gadget ใหม่ๆ มาเติมเต็มให้โครงการที่อยู่อาศัยของตนกลายเป็น Smart Home วันนี้ Gadget เด็ดๆ มาฝากครับ

อันดับ 1 Smart Door Locks

     หลายคนคงเริ่มคุ้นตา กับจุดขายของโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ที่นำนวัตกรรม Smart Door Locks หรือ Digital Door Locks เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ปลอดภัยไร้กังวล และหมดปัญหาเรื่องการหากุญแจไม่เจอ แถมยังสุดไฮเทคเหมาะกับยุคสังคมออนไลน์ เพียงนำ Smartphone ไปแตะ ประตูก็พร้อมเปิดให้เข้าไปในอาณาจักรของตนเอง ด้วยความล้ำเช่นนี้แหละ จึงทำให้หลายโครงการนำอุปกรณ์นี้ไปติดตั้งในโครงการต่างๆ กันมากขึ้น



Digital Door Locks Smart Door Locks


ภาพ via .techhive.com ราคา $ 189.99 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 5,699 บาท



อันดับ 2 Advanced Security Systems

     ตอนนนี้ดูเหมือนการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด CCTV ไว้ที่บ้านจะไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป แถมยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของไอเท็มจำเป็นสำหรับบ้านที่ต้องมีไว้เพื่อความ อุ่นใจ เพราะประโยชน์ของเจ้าเทคโนโลยีชนิดนี้ นอกจากสามารถดูคนเข้า-ออกในอาณาเขตของตัวเองได้แล้ว ยังสามารถดูความเคลื่อนไหวของสมาชิกครอบครัวได้ โดยเฉพาะเหล่าเด็กน้อยจอมซน หรือเอาไว้คอยส่องพฤติกรรมของน้องหมา-น้องแมวทั้งหลายเวลาที่เราต้องออกไป ข้างนอกผ่านสมาร์ทโฟนได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถตั้งระบบเตือนความปลอดภัยได้อีกด้วย

Advanced Security System

ภาพ via safesoundfamily.com ราคา $ 187.98 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 5,639 บาท



อันดับ 3 ระบบ Smart Home Automation

     สุนทรีย์ของมนุษย์ คงหลีกหนีไม่พ้นความสะดวกสบาย ในการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน ด้วยเหตุนี้จึงมีคนคิดค้น Smart Home Automation ขึ้น รูปร่างหน้าตาเหมือน iPad ติดตั้งบนฝาผนัง และยังสามารถแปลงร่างเป็นได้ทั้ง Internet Radio ระบบสื่อสารของสมาชิกครอบครัว เปิด-ปิดไฟทุกจุดในบ้าน ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้า อย่างเครื่องปรับอากาศ หรือแม้กระทั่งการเปิด-ปิดผ้าม่าน และท้ายสุด ยังสามารถเป็นแหล่งพลังงานสำรอง โดยดึงพลังงานแสงอาทิตย์นำมาแปลงเป็นพลังงานไว้ใช้ในยามจำเป็นได้อีกด้วย

Smart Home Automation

ภาพ via pixshark.com


อันดับ 4 ไอเท็ม Smart Electric Appliances

     ด้วยความหลากหลายของเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบัน ทำให้นักการตลาดต้องพยายามฉีกหนีจากคู่แข่งด้วยการดึงฟังก์ชั่นการใช้งาน เด่นๆ มาดึงดูดความสนใจและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ และนั่นเป็นที่มาของการพัฒนา Smart Electric Appliances อาทิ Robot Bar หุ่นยนต์สั่งงานบริการเครื่องดื่มดั่งใจต้องการ เพียงแค่กด Drink ก็ได้ดื่ม หรือหากใครชอบกินขนมปังปิ้งแบบล้ำๆ ขอแนะนำ Selfie Toast ติดบ้านไว้ สนุกแน่นอน เพราะมีแผ่นฟิล์มรูปหน้าตัวเองซ่อนไว้ในเครื่อง พอกดปิ้งปุ๊ป ขนมปังเหลืองทองน่ากิน ลายคนทำจะเด้งดึ๋งพร้อมเสริฟ์ขึ้นมาทันที

Robot Bar

ภาพ via hammacher.com ราคา $ 25,000 คิดเป็นเงินไทย 750,000 บาท

Selfie-Toaster

ภาพ via hammacher.com ราคา $ 69.95 คิดเป็นเงินไทย 2,098 บาท




อันดับ 5 เทรนด์เฟอร์นิเจอร์สไตล์ Hipster

     นาทีนี้ใครๆ ก็อยากแสดงตัวตนในความเป็น Hipster กันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่บรรดาเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ยังพยายามแสดงจุดยืนความล้ำสมัย หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ในบ้านก็ยังคง Concept นี้ไว้ ล่าสุด IKEA ได้ออกแบบโต๊ะ Built-In Wireless Chargers เพื่อสนอง Need ของเหล่ามนุษย์ออนไลน์ ที่ต่างจ้องหาปลั๊กเสียบชาร์ตแบต Smartphone เท่านั้นยังไม่พอนักออกแบบ Charles Lusher ได้ทำเอาคอเกมส์ทั้งหลาย เตรียมควักกระเป๋าซื้อ Nes Controller Coffee Table ซึ่งถูกออกแบบให้มีปุ่มควบคุมทิศทางการเล่นบนโต๊ะ เอาเป็นว่า งานนี้ มันแน่นอน!

Built-In Wireless Chargers

ภาพ via coolthings.com ราคา $ 109.99 คิดเป็นเงินไทย 3,299 บาท



Nes Controller Coffee Table

ภาพ via bitrebels.com ราคา $ 5,208 คิดเป็นเงินไทย 156,250 บาท

    อัพเดทความแรงแบบล้ำๆ ใน Gadget แต่ละอันดับไปแล้ว อย่าลืม! เดินออกไปช้อป Smart Furniture ณ ศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ทันสมัยใกล้บ้าน จะได้สัมผัสเสน่ห์ของบ้านอัจริยะตามเทรนด์กับเขาบ้าง


เรียบเรียง : ฤทธิ์ษณะ น้อยกมล

ข้อมูล : ddproperty.com/via  , clearviewaudio.com

บทความอื่นๆน่าสนใจ

5 Gadget สุดฮิตที่จะเนรมิตรบ้านให้เป็น Smart Home

แก้ปัญหาพื้นที่เล็กๆบนคอนโด

– 9 จุด เตรียมบ้านรับหน้าฝน

5 ข้อห้ามลืม ออกแบบห้องน้ำแคบให้ดูกว้าง ใช้สะดวกสบาย

วิธีการคำนวณค่าเช่าคอนโดเพื่อเพิ่มตอบแทน

6 วิธี ตกแต่งห้องน้ำให้สดใส มีชีวิตชีวา

10 ไอเท็มบนโต๊ะทำงานที่คุณควรจะมี

8 ยอดกลยุทธ์ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

วิธีการตรวจรับห้องคอนโด อย่างง่าย

ทุกวันนี้เราต้องเสียภาษีอะไรกันบ้าง

–  ผ่อนสั้นหรือผ่อนยาว สำหรับซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม อันไหนดีกว่ากัน

สวนกระถาง สวนเล็กๆ ในบ้านให้ความสดใสให้กับชีวิต

10 ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมสำหรับการซื้อบ้านและคอนโด

ไอเดียแต่งสวนสวยด้วยหญ้าเทียม

การเลือกใช้สีตามหลักภูมิปัญญาจีน

การตกแต่งสไตล์ minimalist

ตกแต่งบ้านหรือคอนโดหลังแรก

ตกแต่งคอนโดด้วยสวนแคนตัส

7 เคล็ดลับขยายพื้นที่บ้าน ด้วยการตกแต่ง

แก้ปัญหาพื้นที่เล็กๆบนคอนโด

ห้องครัวบนคอนโด  ส่วนใหญ่ค่อนข้างมีพื้นที่จำกัด ในการใช้งาน  แต่จะทานข้าวแต่ละที่ที่นั่งก็ไม่พอ ต้องเอามานั่งทานในห้องนั่งเล่น    เพราะฉะนั่นเราควรมาสร้างพื้นที่นั่งทานข้าวกันเถอะคะ

https://lh3.googleusercontent.com/r0SPbRgC2goVOfmAikGaxKEPZ4XegSoB9VwcoUkzqC4=w600-h800-nohttps://lh3.googleusercontent.com/ub6ek4wvctq9Iy88wF7cHwRvdydI5fTl_U71X2oW7wY=w523-h668-no

1. โต๊ะพับกระชับพื้นที่

โต๊ะพับจะให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในร้านอาหาร พับเก็บง่าย   แค่หาชั้นวางติดผนังที่สามารถกางโต๊ะได้  ออกมาได้  เท่านี้ก็ช่วยประหยัดพื้นที่แล้วคะ

2.โต๊ะลิ้นชัก

เหมาะสำหรับพื้นที่แคบในคอนโด  ไว้สำหรับมุมดินเนอร์    ให้ลองหาชุดตู้ลิ้นชักครัวที่ซ่อนโต๊ะลิ้นชักไว้ข้างในแล้ว อยากจะจัดมื้อใต้แสงเทียนตอนไหน แค่ดึงออกมาต่อขาใช้

3.บาร์ติดหน้าต่าง  ได้บรรยากาศแบบร้านกาแฟ

ออก แบบมุมกินข้าวให้ได้บรรยากาศร้านกาแฟ  ด้วยการ DIY  บาร์ไม้สวยๆสักอัน  แล้วนำไปติดใต้หน้าต่าง หาเก้าอี้ตัวเล็กมาตั้ง เท่านี้ก็จะได้ทั้งฟิลร้านกาแฟกับโต๊ะอาหาร

4.โต๊ะพับติดชั้นวางของ

ใช้งานเล้กกระทัดรัด  และที่สำคัญช่วยประหยัดพื้นที่คงเป็นที่ชื่นชอบของมนุษย์คอนโด

5.เสริมโต๊ะอาหารเข้ากับเคาน์เตอร์ครัว

ต่อเติมส่วนของโต๊ะอาหารเพิ่มเข้าไปที่เคาน์เตอร์  พอทำงานอาหารเสร็จก็เอามาเสิร์ฟได้ง่ายๆ

แบบนี้แล้วสำหรับคนที่มีพื้นที่เล็กก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป   เพราะวิธีเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีมุมกินข้าวเล็กในคอนโดได้แล้วคะ

บทความอื่นๆน่าสนใจ

แก้ปัญหาพื้นที่เล็กๆบนคอนโด

– 9 จุด เตรียมบ้านรับหน้าฝน

5 ข้อห้ามลืม ออกแบบห้องน้ำแคบให้ดูกว้าง ใช้สะดวกสบาย

วิธีการคำนวณค่าเช่าคอนโดเพื่อเพิ่มตอบแทน

6 วิธี ตกแต่งห้องน้ำให้สดใส มีชีวิตชีวา

10 ไอเท็มบนโต๊ะทำงานที่คุณควรจะมี

8 ยอดกลยุทธ์ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

วิธีการตรวจรับห้องคอนโด อย่างง่าย

ทุกวันนี้เราต้องเสียภาษีอะไรกันบ้าง

–  ผ่อนสั้นหรือผ่อนยาว สำหรับซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม อันไหนดีกว่ากัน

สวนกระถาง สวนเล็กๆ ในบ้านให้ความสดใสให้กับชีวิต

10 ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมสำหรับการซื้อบ้านและคอนโด

ไอเดียแต่งสวนสวยด้วยหญ้าเทียม

การเลือกใช้สีตามหลักภูมิปัญญาจีน

การตกแต่งสไตล์ minimalist

ตกแต่งบ้านหรือคอนโดหลังแรก

ตกแต่งคอนโดด้วยสวนแคนตัส

7 เคล็ดลับขยายพื้นที่บ้าน ด้วยการตกแต่ง